. จะทำไง ถ้าวันหนึ่งเว็บของคุณที่กำลังสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ กลับถูกเจ้าหัวขโมยไซเบอร์ฉกไป กลายเป็นเว็บล่อแหลมอนาจาร ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง แล้วจะทำอย่างไงดีถึงจะได้เว็บแสนรักแสนหวงของคุณกลับคืนมา จะไปปรึกษาดี ควรจะไถ่คืน? แจ้งความดำเนินคดี? หรือว่า...จะตัดใจ T_T
1. ติดต่อผู้ให้บริการจดโดเมนที่คุณใช้บริการอยู่
โดย แจ้งว่าคุณถูกขโมยโดเมน และขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบความมีเสถียรภาพทางระบบ อินเตอร์เน็ตโลก คือ Internet Corporation for Assigned Names and Numbers(ICANN) ซึ่งมีหน้าที่จัดการเกี่ยวกับการชื่อโดเมนและ IP Address เพื่อยื่นเรื่องขอชื่อโดเมนคืน รวมทั้งให้ช่วยติดต่อไปยังผู้ให้บริการจดชื่อโดเมนที่เว็บไซต์ของคุณถูกย้าย ไป
2. เตรียมหลักฐานความเป็นเจ้าของชื่อโดเมนของคุณ
เรา จำเป็นต้องนำหลักฐานต่างๆ มายืนยันสิทธิ์การเป็นเจ้าของโดเมนเพื่อให้ทาง ICANN แน่ใจว่าไม่ใช่การหลอกลวง หรือแจ้งความเท็จ ซึ่งหากคุณไม่มีหลักฐานมายืนยัน ก็จะค่อนข้างยากที่จะได้โดเมนคืน เพราะฉนั้นควรรวบรวบหลักฐานให้ได้มากที่สุด เช่น หลักฐานการจดทะเบียนชื่อโดเมน หลักฐานการชำระเงินค่าจดทะชื่อโดเมน รวมทั้งข้อมูลการตรวจสอบชื่อโดเมนจากระบบค้นหาชื่อโดเมน (Whois) ซึ่งจะใช้ในการตรวจสอบได้ว่าชื่อโดเมนนี้ใครเป็นเจ้าของ เช่นจาก Checkdomain.com เป็นต้น นอกจากนี้คุณยังต้องเตรียมหลักฐานในการถูกขโมยชื่อโดเมนไปไว้ด้วย เช่น อีเมลแจ้งการโอนย้ายข้อมูล หรือข้อมูลการติดต่อกับหัวขโมย หากมีการติดต่อมาเพื่อเรียกร้องเงินค่าไถ่โดเมนของคุณ
3. ขอหนังสือรับรองจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือชมรมผู้ประกอบการธุรกิจโฮสติ้ง
คือ เมื่อรวบรวมหลักฐานต่างๆได้เรียบร้อยแล้ว คุณต้องไปขอหนังสือรับรองจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือชมรมผู้ประกอบการธุรกิจโฮสติ้ง เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของโดเมนอีกครั้งหนึ่ง ทราบหรือไม่ว่าเดี๋ยวนี้มีกฏหมายค้มครองกรณีชื่อโดเมนถูกขโมย หรือกรณีที่เว็บไซต์ถูกทำให้เสียหายโดยที่เจ้าของชื่อโดเมนไม่ยินยอมด้วย ซึ่งจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
4. ส่งเอกสารไปยัง ICANN เพื่อขอหนังสือรับรองความเป็นเจ้าของโดเมน
เพราะ นอกจากหนังสือรับรองจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือชมรมผู้ประกอบการธุรกิจโฮ สติ้งแล้ว คุณยังต้องมีหนังสือรับรองจาก ICANN ด้วย จึงต้องทำการขอความร่วมมือไปยังผู้ให้บริการจดทะเบียนโดเมนที่คุณใช้บริการ อยู่ เพื่อให้ช่วยส่งหลักฐานของคุณไปที่ ICANN จากนั้นรอการตรวจสอบจาก ICANN
5. ส่งหลักฐานทั้งหมดไปยังผู้ที่ให้บริการจดทะเบียนโดเมน
ที่ หัวขโมยโอนย้ายชื่อโดเมนของคุณไป และขั้นตอนสุดท้ายนี้ขึ้นอยู่กับหลักฐานที่คุณเตรียมมา หากคุณเตรียมเอกสารทุกอย่างไว้อย่างชัดเจน คุณก็จะประสบความสำเร็จในการทวงชื่อโดเมนที่คุณแสนรักแสนหวงกลับมาครอบครอง อีกครั้ง
1. ติดต่อผู้ให้บริการจดโดเมนที่คุณใช้บริการอยู่
โดย แจ้งว่าคุณถูกขโมยโดเมน และขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบความมีเสถียรภาพทางระบบ อินเตอร์เน็ตโลก คือ Internet Corporation for Assigned Names and Numbers(ICANN) ซึ่งมีหน้าที่จัดการเกี่ยวกับการชื่อโดเมนและ IP Address เพื่อยื่นเรื่องขอชื่อโดเมนคืน รวมทั้งให้ช่วยติดต่อไปยังผู้ให้บริการจดชื่อโดเมนที่เว็บไซต์ของคุณถูกย้าย ไป
2. เตรียมหลักฐานความเป็นเจ้าของชื่อโดเมนของคุณ
เรา จำเป็นต้องนำหลักฐานต่างๆ มายืนยันสิทธิ์การเป็นเจ้าของโดเมนเพื่อให้ทาง ICANN แน่ใจว่าไม่ใช่การหลอกลวง หรือแจ้งความเท็จ ซึ่งหากคุณไม่มีหลักฐานมายืนยัน ก็จะค่อนข้างยากที่จะได้โดเมนคืน เพราะฉนั้นควรรวบรวบหลักฐานให้ได้มากที่สุด เช่น หลักฐานการจดทะเบียนชื่อโดเมน หลักฐานการชำระเงินค่าจดทะชื่อโดเมน รวมทั้งข้อมูลการตรวจสอบชื่อโดเมนจากระบบค้นหาชื่อโดเมน (Whois) ซึ่งจะใช้ในการตรวจสอบได้ว่าชื่อโดเมนนี้ใครเป็นเจ้าของ เช่นจาก Checkdomain.com เป็นต้น นอกจากนี้คุณยังต้องเตรียมหลักฐานในการถูกขโมยชื่อโดเมนไปไว้ด้วย เช่น อีเมลแจ้งการโอนย้ายข้อมูล หรือข้อมูลการติดต่อกับหัวขโมย หากมีการติดต่อมาเพื่อเรียกร้องเงินค่าไถ่โดเมนของคุณ
3. ขอหนังสือรับรองจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือชมรมผู้ประกอบการธุรกิจโฮสติ้ง
คือ เมื่อรวบรวมหลักฐานต่างๆได้เรียบร้อยแล้ว คุณต้องไปขอหนังสือรับรองจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือชมรมผู้ประกอบการธุรกิจโฮสติ้ง เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของโดเมนอีกครั้งหนึ่ง ทราบหรือไม่ว่าเดี๋ยวนี้มีกฏหมายค้มครองกรณีชื่อโดเมนถูกขโมย หรือกรณีที่เว็บไซต์ถูกทำให้เสียหายโดยที่เจ้าของชื่อโดเมนไม่ยินยอมด้วย ซึ่งจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
4. ส่งเอกสารไปยัง ICANN เพื่อขอหนังสือรับรองความเป็นเจ้าของโดเมน
เพราะ นอกจากหนังสือรับรองจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือชมรมผู้ประกอบการธุรกิจโฮ สติ้งแล้ว คุณยังต้องมีหนังสือรับรองจาก ICANN ด้วย จึงต้องทำการขอความร่วมมือไปยังผู้ให้บริการจดทะเบียนโดเมนที่คุณใช้บริการ อยู่ เพื่อให้ช่วยส่งหลักฐานของคุณไปที่ ICANN จากนั้นรอการตรวจสอบจาก ICANN
5. ส่งหลักฐานทั้งหมดไปยังผู้ที่ให้บริการจดทะเบียนโดเมน
ที่ หัวขโมยโอนย้ายชื่อโดเมนของคุณไป และขั้นตอนสุดท้ายนี้ขึ้นอยู่กับหลักฐานที่คุณเตรียมมา หากคุณเตรียมเอกสารทุกอย่างไว้อย่างชัดเจน คุณก็จะประสบความสำเร็จในการทวงชื่อโดเมนที่คุณแสนรักแสนหวงกลับมาครอบครอง อีกครั้ง
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
Modem (Adsl)
Smarter Mail
- คู่มือ Plesk Panel 9.2
- คู่มือ Smarter Mail
- วิธีการเพิ่ม Address BooK ใน Smarter Mail
- การตั้งค่า spam filtering เบื้องต้น
- Filter mail to folder (สามารถตั้งค่ากรอง spam ได้)
- Reminder มันคืออะไร ทำไมไม่เข้า Inbox ว่ะ
- การ setting ค่า encoding เพื่อส่ง mail เป็นภาษาไทยได้(set เป็น utf-8)
- เปิด mail หน้าใหญ่ๆ
Web Hosting
บทความทั้งหมด
-
▼
2009
(21)
-
▼
December
(14)
- คำสั่ง Linux
- การปิด Windows Update For Windows 7
- การปิด Windows Firewall For Windows 7
- การสร้าง Dial UP Connection For Windows 7
- OutLook: Setup Outlook Express For Hotmail
- การดูค่า Up Stream และ Down Stream ของ Modem SMC
- Domain: แก้ไขปัญหาถูกขโมยโดเมน (Hack Domain)
- SmarterMail : การตั้งค่า spam filtering เบื้องต้น
- SmarterMail : เปิด mail หน้าใหญ่ๆ
- Plesk9.2: การเพิ่มขนาด mail box ให้ account
- SmarterMail: การ setting ค่า encoding เพื่อส่ง mai...
- SmarterMail: Reminder มันคืออะไร ทำไมไม่เข้า Inbox...
- Plesk 9.2: การเปลี่ยน password E-mail
- SmarterMail: Filter mail to folder (สามารถตั้งค่าก...
-
▼
December
(14)
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment