สมัยนี้มี GUI (Graphic User Interface) ทำให้ใช้งานง่ายขึ้น แต่สำหรับผู้ดูแลระบบแล้ว

คำสั่งแบบ Command Line ก็ยังเป็นประโยชน์ในการเขียน script อยู่

คำสั่งที่ทั่วไป

uname
การแสดงรายละเอียดของเครื่อง


pwd
แสดงตำแหน่งปัจจุบัน


ls
แสดงรายชื่อไฟล์ ไดเร็คทอรี่ ในรูปแบบต่างๆ


cd
คือการ access เข้าไปยังไดเร็คทอรี่


cd ..
การถอยออกจากไดเร็คทอรี่ที่อยู่ปัจจุบัน หนึ่งไดเร็คทอรี่


tty
การแสดงหน้าจอที่กำลังใช้งานอยู่


whoami
แสดงว่าตัวเองเป็น user อะไร


cp
การสำเนาไฟล์


mv
การย้ายไฟล์


mkdir
การสร้างไดเร็คทอรี่


touch
การสร้างไฟล์


rm
การลบไฟล์


rmdir
การลบไดเร็คทอรี่


history
การแสดงคำสั่งที่เราได้ใช้ไปแล้ว


man
เป็นการขอตัวช่วยหรือเป็นการดูเอกสารของคำสั่งนั้นๆ


reboot
การ restart เครื่อง


init 0
การปิดเครื่อง


date
การแสดงวัน


cal
การแสดงปฏิทิน


finger
การแสดงรายชื่อ user ที่กำลังอยู่ในระบบขณะนี้


exit
การออกจาก shell ปัจจุบัน


fdisk
การจัดการเกี่ยวกับ partition


cat
เป็นการดูเนื้อหาของไฟล์ที่ต้องการเช่น cat /etc/passwd


find
เป็นการค้นหาไฟล์


grep
เป็นคำสั่งในการหาข้อความในบรรทัด


gzip
เป็นการลดขนาดไฟล์


gunzip
เป็นการยกเลิกการลดขนาดไฟล์


chmod
เป็นการกำหนดค่าที่เซตใน Owner-Group-Other


chown
เป็นการเปลี่ยนมือเจ้าของ


chgrp
เป็นการเปลี่ยนกลุ่ม


mount
เป็นคำสั่งที่เมาท์อุปกรณ์ หรือพาร์ติชั่น
โดยมีรูปแบบดังนี้ mount options device directory


umount
เป็นการยกเลิกการเมาท์


fsck
เป็นการตรวจสอบไฟล์ หรือย่อจาก File System Checking


df
เป็นคำสั่งที่ดูเนื้อที่ว่างบนระบบไฟล์ที่เมาท์


du
เป็นการดูเนื้อที่ว่างบนไดเรคทรอรี่ที่ใช้อยู่


ps
แสดงงานที่เปิดอยู่ หรือกระบวนการที่ทำงาน


kill
เป็นคำสั่งที่ยกเลิกการทำงานของกระบวนการ


logout
เป็นคำสั่งที่ออกจากระบบ ใช้ได้ต่อเมื่ออยู่ใน Shell


free
เป็นการแสดงสถานะของเมมโมรี่ และเนื้อที่ว่างบนเมมโมรี่
ทั้งกายภาพ ที่ใช้ ใน swap, และบัฟเฟอร์


mke2fs
เป็นคำสั่งฟอร์แมตดิสก์พร้อมใส่ระบบไฟล์ไปด้วย


lpr
เป็นการส่งงานพิมพ์จากเครื่องลูกข่าย


top
เป็นคำสั่ง Monitor System
1. กด Start เลือก Control Panel

2. เลือก Windows Update

3. เลือก Change settings

4. เลือก Never check for update (not recommended) แล้วกด OK

1. กด Start เลือก Control Panel

2. เลือก Windows Firewall

3. เลือก Change notification settings

4. เลือก Turn off Windows Firewall (not recommended) เสร็จแล้วกด OK

1. กด Start เลือก Control Panel
2. เลือก Network and Sharing Center

3. เลือก Set up a new connection or network

4. เลือก Set up a dial-up connection แล้วกด Next

5. กรอก Dial-up phone number, User name, Password ติ๊กถูก Remember thai password กรอก Connection name เสร็จแล้วกด Connect

6. การสร้าง Shortcut เลือก Change adapter settings

7. คลิกเมาส์ขวาที่ Dial-up Connection เลือก Create Shortcut

ขั้นที่ 1. เปิดโปรแกรม Outlook Express เลือกเมนู Tool → Accounts...

ขั้นที่ 2. เลือกแท็บ Mail คลิกที่ปุ่ม Add → Mail

ขั้นที่ 3. ใส่ชื่อของท่านที่ใช้แสดงเวลาส่งเมลล์ออก คลิกปุ่ม Next

ขั้นที่ 4. ใส่ Username ที่ใช้ Sign up ตามด้วย @hotmail.com หรือ @live.comแล้วคลิกปุ่ม Next

ขั้นที่ 5. My incoming Mail server is a เลือก POP3 แล้วใส่ pop3.live.com ที่ Incoming mail และใส่ smtp.live.com ที่ Outgoing mail [ขึ้นอยู่กับ Internet ที่ให้บริการด้วยนะครับ อาจต้องสอบถามกับผู้ให้บริการนั้น ๆ] คลิกปุ่ม Next

ขั้นที่ 6. ใส่ User name และ Password ที่ใช้ Sign up ตามจริงแล้วตามด้วย @hotmail หรือ @live.com และทำเครื่องหมายถูกที่ Remember Password เพื่อโปรแกรมจะไม่ถาม Username และ Password ในคราวต่อไป คลิกปุ่ม Next

ขั้นที่ 7. คลิกปุ่ม Finish

ขั้นที่ 8. คลิกที่ Account ที่ Add แล้วกดปุ่ม Properties หรือดับเบิ้ลคลิกที่ Account ที่สร้างขึ้น

ขั้นที่ 9. เลือกแท็บ Servers ในส่วนของ Outgoing Mail Serverติ๊กเครื่องหมายถูกที่ช่อง My server requires authentication แล้วกดปุ่ม Settings...

ขั้นที่ 10. Logon Information เลือก Use same settings as my incoming mail server คลิกปุ่ม OK ดังรูป

ขั้นที่ 11. เลือกแท็บ Advanced

ในส่วน Server Port Numbers ติ๊กเครื่องหมายถูกที่ช่อง This server requires a secure connection (SSL) [Incoming mail (POP3): 995 ]

ในส่วน Server Timeouts ให้เลื้อนแถบ ไปทาง Long เพื่อจะเพิ่มเวลาในการติดต่อ Server

ในส่วน Delivery ติ๊กเครื่องหมายถูกที่ช่อง Leave a copy of messages on server เพื่อเป็นทำสำเนาไว้ที่ Server ด้วย แล้วคลิกปุ่ม OK

เสร็จเรียบร้อยสำหรับการ Setup Outlook Express For Hotmail...!!!@

.
ขั้นตอน

1. Advanced Setup
2. ADsl >> Status
3. สังเกตุตรงกลางจอภาพ Data Rate

ดูตามภาพครับ



1.Advanced Setup



2.ADsl >> Status



3.สังเกตุตรงกลางจอภาพ Data Rate

โดยดูที่ค่า Up Stream(Upload) และ Down Stream(Download)
. จะทำไง ถ้าวันหนึ่งเว็บของคุณที่กำลังสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ กลับถูกเจ้าหัวขโมยไซเบอร์ฉกไป กลายเป็นเว็บล่อแหลมอนาจาร ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง แล้วจะทำอย่างไงดีถึงจะได้เว็บแสนรักแสนหวงของคุณกลับคืนมา จะไปปรึกษาดี ควรจะไถ่คืน? แจ้งความดำเนินคดี? หรือว่า...จะตัดใจ T_T

1. ติดต่อผู้ให้บริการจดโดเมนที่คุณใช้บริการอยู่

โดย แจ้งว่าคุณถูกขโมยโดเมน และขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบความมีเสถียรภาพทางระบบ อินเตอร์เน็ตโลก คือ Internet Corporation for Assigned Names and Numbers(ICANN) ซึ่งมีหน้าที่จัดการเกี่ยวกับการชื่อโดเมนและ IP Address เพื่อยื่นเรื่องขอชื่อโดเมนคืน รวมทั้งให้ช่วยติดต่อไปยังผู้ให้บริการจดชื่อโดเมนที่เว็บไซต์ของคุณถูกย้าย ไป

2. เตรียมหลักฐานความเป็นเจ้าของชื่อโดเมนของคุณ

เรา จำเป็นต้องนำหลักฐานต่างๆ มายืนยันสิทธิ์การเป็นเจ้าของโดเมนเพื่อให้ทาง ICANN แน่ใจว่าไม่ใช่การหลอกลวง หรือแจ้งความเท็จ ซึ่งหากคุณไม่มีหลักฐานมายืนยัน ก็จะค่อนข้างยากที่จะได้โดเมนคืน เพราะฉนั้นควรรวบรวบหลักฐานให้ได้มากที่สุด เช่น หลักฐานการจดทะเบียนชื่อโดเมน หลักฐานการชำระเงินค่าจดทะชื่อโดเมน รวมทั้งข้อมูลการตรวจสอบชื่อโดเมนจากระบบค้นหาชื่อโดเมน (Whois) ซึ่งจะใช้ในการตรวจสอบได้ว่าชื่อโดเมนนี้ใครเป็นเจ้าของ เช่นจาก Checkdomain.com เป็นต้น นอกจากนี้คุณยังต้องเตรียมหลักฐานในการถูกขโมยชื่อโดเมนไปไว้ด้วย เช่น อีเมลแจ้งการโอนย้ายข้อมูล หรือข้อมูลการติดต่อกับหัวขโมย หากมีการติดต่อมาเพื่อเรียกร้องเงินค่าไถ่โดเมนของคุณ

3. ขอหนังสือรับรองจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือชมรมผู้ประกอบการธุรกิจโฮสติ้ง

คือ เมื่อรวบรวมหลักฐานต่างๆได้เรียบร้อยแล้ว คุณต้องไปขอหนังสือรับรองจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือชมรมผู้ประกอบการธุรกิจโฮสติ้ง เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของโดเมนอีกครั้งหนึ่ง ทราบหรือไม่ว่าเดี๋ยวนี้มีกฏหมายค้มครองกรณีชื่อโดเมนถูกขโมย หรือกรณีที่เว็บไซต์ถูกทำให้เสียหายโดยที่เจ้าของชื่อโดเมนไม่ยินยอมด้วย ซึ่งจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

4. ส่งเอกสารไปยัง ICANN เพื่อขอหนังสือรับรองความเป็นเจ้าของโดเมน

เพราะ นอกจากหนังสือรับรองจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือชมรมผู้ประกอบการธุรกิจโฮ สติ้งแล้ว คุณยังต้องมีหนังสือรับรองจาก ICANN ด้วย จึงต้องทำการขอความร่วมมือไปยังผู้ให้บริการจดทะเบียนโดเมนที่คุณใช้บริการ อยู่ เพื่อให้ช่วยส่งหลักฐานของคุณไปที่ ICANN จากนั้นรอการตรวจสอบจาก ICANN

5. ส่งหลักฐานทั้งหมดไปยังผู้ที่ให้บริการจดทะเบียนโดเมน

ที่ หัวขโมยโอนย้ายชื่อโดเมนของคุณไป และขั้นตอนสุดท้ายนี้ขึ้นอยู่กับหลักฐานที่คุณเตรียมมา หากคุณเตรียมเอกสารทุกอย่างไว้อย่างชัดเจน คุณก็จะประสบความสำเร็จในการทวงชื่อโดเมนที่คุณแสนรักแสนหวงกลับมาครอบครอง อีกครั้ง
การตั้งค่า spam filtering เบื้องต้น

1. Setting
2. ที่แถบซ้ายมือ ดูที่ Filtering เลือก Spam Filtering
3. ตรงกลางจอ Spam Filtering เข้าแถบ Option เลือก Override spam settings for this account
4. ตรงกลางจอ Spam Filtering เข้าแถบ Actions ที่
Low Probability of Being Spam ให้ Action เป็น No Action
Medium Probability of Being Spam ให้ Action เป็น Move to junk E-mail Folder
High Probability of Being Spam ให้ Action เป็น Move to junk E-mail Folder
จากนั้นกด Save ครับ

ภาพประกอบครับ



1. Setting



2. ที่แถบซ้ายมือ ดูที่ Filtering เลือก Spam Filtering



3. ตรงกลางจอ Spam Filtering เข้าแถบ Option เลือก Override spam settings for this account



4. ตรงกลางจอ Spam Filtering เข้าแถบ Actions ที่
Low Probability of Being Spam ให้ Action เป็น No Action
Medium Probability of Being Spam ให้ Action เป็น Move to junk E-mail Folder
High Probability of Being Spam ให้ Action เป็น Move to junk E-mail Folder
จากนั้นกด Save ครับ
เห็นหน้าอ่าน mail จอเล็กๆบ้างคนอาจจะรำคาญครับผมมีวิธีง่ายๆมาฝาก (lol แล้วจะขำว่าง่ายมาก)
แล้วจะมาบอกทำไม?
ก็มีลูกค้าสอบน่ะคับ จิงๆผมก็ไม่รู้หรอกตอนแรก ลองกดดูเอ้าได้เฉย
มาดูภาพกัน






อันนี้เป็นภาพหน้าจอปกติ



ดับเบิ้ลคลิกที่ mail ครับ



นี่เป็นถาพหน้าจอใหญ่อันเดียว


เห็นมั้ยครับง่ายมาก และก็ยินดีด้วยสำหรับคนที่ต้องการความสบายตา

--
ทำตามขั้นตอนดังนี้

1.ไปที่ Mail Account
2.เลือก email ที่ต้องการเพิ่มขนาด
3.ไปที่ Mail Box
4. ที่ Mailbox quota เลือก Enter size ในช่องใส่ ขนาด Mail Box ตามต้องการ (หน่วยเป็น KBytes) แล้วกด ok

ไปดูตามภาพกัน





1.ไปที่ Mail Account



2.เลือก email ที่ต้องการเพิ่มขนาด



3.ไปที่ Mail Box



4. ที่ Mailbox quota เลือก Enter size ในช่องใส่ ขนาด Mail Box ตามต้องการ (หน่วยเป็น KBytes) แล้วกด ok

--
ขั้นตอนตามนี้ครับ

1.Settings
2.ที่แถบ Settingsด้านซ้ายมือ เลือกAccount Setting
3.ที่แถบ Account Settings ตรงกลางของจอ เลือกCompose
4.เมื่อเลือกไปหน้าCompose มองหาText Encoding (เมนูที่ 3 จากด้านบน) เลือกเป็น utf-8 แล้ว Save

มาทำขั้นตอนตามภาพกัน




1.Settings



2.ที่แถบ Settingsด้านซ้ายมือ เลือกAccount Setting



3.ที่แถบ Account Settings ตรงกลางของจอ เลือกCompose



4.เมื่อเลือกไปหน้าCompose มองหาText Encoding (เมนูที่ 3 จากด้านบน) เลือกเป็น utf-8 แล้ว Save

--
หลายคนคงเคยเจอปัญหาแบบนี้ หัวข้อบทความนี้

มันคือไรว่ะ อ่านก็ไม่ได้ ไม่ยอมเข้า inbox ซักที

เราจะมาเฉลยครับ มันคือระบบเตือน email เข้า

ให้นึกถึง Facebook ที่มี Notification นั้นละคับแบบเดียวกัน

และไมมันอยู่อยู่ใน inbox ล่ะ ลองกด F5 เพื่อ Refresh ดูครับ

มาแล้วอะเดะ!!! lol

ผมคาดว่าคงเป็นระบบที่ใช้ลด Bandwidth ที่มันไม่ไปขึ้นตัวเลขใน inbox

แต่ไม่ต้องคิดมาก เพราะเพียงกด F5 มันก็จะมาแล้ว

--
การเปลี่ยนpass E-mail ในหน้า admin Plesk 9.2


1.เลือก mail account
2.เลือก E-mail ที่ต้องการเปลี่ยน password
3.เลือก preferences
4.ใส่ password ใหม่ 2 ครั้ง แล้วกด ok finish


มาดูภาพกัน




1.เลือก mail account



2.เลือก E-mail ที่ต้องการเปลี่ยน password



3.เลือก preferences



4.ใส่ password ใหม่ 2 ครั้ง แล้วกด ok finish

--
การ filter mail เข้า folder

1. เข้า setting
2. ที่แถบซ้ายมือ เลือก filtering >> Content filtering
3. เมนู Content filtering กลาง window เลือก New
4. Mark ที่ From Addresses >> From Specific Addresses และ Next
5. ในช่องใต้ From Specific Addresses (one per line) ใส่ email (1 email ต่อ บรรทัด) และ Next
6. Mark ที่ Move to >> เลือก Folder (ต้องสร้าง folder ไว้ก่อนจึงจะมีให้เลือก) และ Save
**ขั้นตอนนี้สามารถเลือกเป็น Delete Message เพื่อกรอง spam ได้
7. เสร็จแล้วครับ

มาดูภาพกัน



1.เข้า setting



2.ที่แถบซ้ายมือ เลือก filtering >> Content filtering



3.เมนู Content filtering กลาง window เลือก New



4.Mark ที่ From Addresses >> From Specific Addresses และ Next



5.ในช่องใต้ From Specific Addresses (one per line) ใส่ email (1 email ต่อ บรรทัด) และ Next



6.Mark ที่ Move to >> เลือก Folder (ต้องสร้าง folder ไว้ก่อนจึงจะมีให้เลือก) และ Save



7.เสร็จแล้วครับ (จะเห็นว่าเมื่อ mail เข้าจะขึ้นดังภาพ)

--